ปัจจุบันนอกจากไฟล์เอกสาร (document) ที่เป็นรูปแบบของ Microsoft Office (Word, Excel, Power point) แล้วยังมีอีกหนึ่งรูปแบบที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ก็คือไฟล์ PDF (Portable Document Format) นั่นเองครับ ซึ่งประโยชน์ของมันคือมีความยืดหยุ่นสูง เปิดดูข้ามแพลตฟอร์มได้ คงรูปร่างได้แม้ว่าจะย่อหรือขยาย ปลอดภัยเนื่องจากแก้ไขได้ยากหากไม่มีโปรแกรมรองรับ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในองค์กร บริษัท หรือแม้แต่หนังสืองานราชการ ก็ใช้ PDF แทบทั้งนั้น

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ สำหรับโปรแกรมที่เรามักใช้ในการอ่านไฟล์ PDF ที่นิยมมากที่สุดคือโปรแกรมอะไรกันบ้าง

10 อันดับโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF ฟรียอดนิยม

1. Browser

ใช้แล้วครับ Browser หลาย ๆ คนมีเบราว์เซอร์อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Mircosoft Edge, Google Chrome, Mozilla Firefox, Opera หรือเบราว์เซอร์อะไรก็แล้วแต่ในปัจจุบันสามารถรองรับการเปิดอ่านไฟล์ PDF ได้หมดแล้ว ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของมันจะไม่ได้ช่วยจัดการอะไรได้มาก แต่ก็ยังมีคุณสมบัติขั้นพื้นฐานอำนวยความสะดวกได้ เช่น สั่นปริ้นเป็นไฟล์ PDF, สั่งปริ้นไปยังเครื่องพิมพ์, หมุน, ย่อ-ขยาย, และหากเป็นไฟล์ออนไลน์สามารถคลิกเพื่อดาวน์โหลดลงในเครื่องได้ทันที หากในเครื่องไม่มีโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF คิดอะไรไม่ออกละก็ลากไฟล์เข้ามาในเบราว์เซอร์ได้เลย สะดวก รวดเร็ว

2. Adobe Acrobat Reader DC

โปรแกรมหนึ่งเดียวที่ครองอันดับยอดนิยมสำหรับการอ่านไฟล์ PDF มานับทศวรรษ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นที่รากฐานผู้ใช้งานของ Adobe ที่ทำให้รู้จักกันมากในชื่อ Adobe Acrobat Reader เป็นโปรแกรมที่ครบครันไปด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการกับไฟล์ PDF (บางคุณสมบัติใช้ในรุ่น Pro) ที่ใช้ฟรีก็จะไม่มีอะไรแตกต่างจากโปรแกรมอื่นๆ ที่สามารถคัดลอกข้อความไปวางไว้โปรแกรมอื่นได้ หรือหมุนเปลี่ยนมุมมอง ย่อ-ขยาย สั่งปริ้น ค้นหาด้วยข้อความ เป็นต้น

ดาวน์โหลด

3. Foxit Reader

Foxit Reader อีกหนึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในช่วงไหนก็จำไม่ได้แล้ว แต่มีมานานมาก ตั้งแต่ที่ผมเริ่มทำเว็บแจกโปรแกรมช่วงแรก ๆ ก็เป็นที่นิยมกันแล้ว ภายหลัง 5-6 ปีผ่านมา โปรแกรมก็ได้มีการแพร่หลายบนเว็บไซต์แจกโปรแกรมทั้งต่างประเทศและในไทย มาแรงจนได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ เทียบชั้นกับ Adobe Acrobat Reader และในรุ่นฟรีความสามารถไม่ได้โดดเด่นมากกว่ากัน แต่สำหรับในรุ่นจ่ายเงินซื้อนั้น ( Foxit PhantomPDF) มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มมากขึ้น ความต่างระดับฟ้ากับเหวเลยครับ

ดาวน์โหลด

4. Google Drive

อันดับที่สี่ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หลายคนอาจจะมองข้ามหรือนึกไม่ถึง Google Drive เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คน ทุกคนที่ใช้บัญชี Google แม้ว่าคุณไม่ได้ติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ใช้ในเบราว์เซอร์ก็ตามเพราะ Google Drive นั้นมีให้บริการในแบบออนไลน์ผ่านเบราว์เซอร์ และทำงานกับไฟล์เอกสารออนไลน์ คุณสามารถอ่านไฟล์ PDF รวมทั้งแชร์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอ่านได้ และมันยังมัคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณแปลงเอกสารต่าง ๆ ที่ดูผ่านหน้าเบราว์เซอร์เป็น PDF ได้ ด้วยจำนวนผู้ใช้ของ Google Drive มีมากจึงนับรวมว่าเป็นตัวที่ได้รับนิยม

5. Nitro PDF Reader

โปรแกรมอ่าน PDF ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ซึ่งในไทยผมคิดว่ายังคงมีใช้กันน้อย ด้วยเพราะผู้ใช้ส่วนมากก็จะรู้จักกันจากเว็บที่แจกกันในไทยก่อน หากใครที่อินเตอร์ ๆ หน่อย อาจจะเสาะหาแล้วนำมาลองใช้กัน หากใครที่ดาวน์โหลดมาใช้จะได้รุ่น Pro (Free Trial 14 วัน) มาใช้งานซึ่งมีคุณสมบัติในการจัดการไฟล์ PDF ครบถ้วน แต่หลังจากนั้นจะใช้ได้แค่แบบฟรีที่สามารถอ่าน PDF, สั่งปริ้น, เน้นข้อความ, ใส่โน๊ต และรวมถึงปริ้นไฟล์เป็น PDF จากโปรแกรมต่าง ๆ ของ Microsoft Office

ดาวน์โหลด

อันดับ 6-10 โปรแกรมทางเลือก

6. Ashampoo PDF Free

Ashampoo ครั้งแรกที่ผมรู้จักเมื่อตอนฝึกงานนานมาแล้ว แต่ไม่ใช้โปรแกรม PDF จนกระทั่งผมได้เข้าไปดูในเว็บก็เลยเจอกับโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึง โปรแกรม Ashampoo PDF Free ด้วย ทุกวันนี้เว็บไซต์ก็ยังพัฒนาโปรแกรมรุ่นใหม่อยู่ เลยนำมันมาเป็นหนึ่งในการจัดอันดับ คุณสมบัติในการใช้งานรุ่นฟรีก็ไม่ต่างกับโปรแกรมข้างบนที่ได้กล่าวมา

ดาวน์โหลด

7. Free PDF Reader

Free PDF Reader เป็นโปรแกรมของ PDFZilla ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการจัดการ PDF สำหรับโปรแกรมนี้หากเทียบกับโปรแกรมที่เป็นที่นิยมอันดับแรกๆ แล้วไม่นับว่าด้อยกว่า และยังมีขนาดไฟล์ติดตั้งที่เล็กมาก น้อยกว่า 4 Mb จะโหลดจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ หรือพกพาใน USB Flash drive ก็สะดวก

ดาวน์โหลด

8. SumatraPDF

โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF ที่ชื่อว่า SumatraPDF เคยเป็นที่นิยมและรู้จักกันอย่างแพร่หลาย ถึงแม้ว่าจะหยุดพัฒนาไปแล้วในปี 2016 แต่ในช่วงเวลานี้ก็ยังคงรองรับการใช้งานบน Windows 10 อยู่ รวมถึงสามารถใช้งานใน 64 บิต และผมเดาว่าคงจะกลับมาพัฒนาต่อหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงทำให้กระทบต่อการทำงานของโปรแกรม ส่วนคุณสมบัติสามารถ หมุน ซูมเข้าออก สั่งปริ้น และคุณสมบัติเช่นเดียวกับโปรแกรมอ่าน PDF รุ่นฟรีของโปรแกรมอื่น ๆ นอกจากนี้ในหน้าแรกของโปรแกรมมีบันทึกการเปิดอ่านไฟล์ล่าสุดเอาไว้ ให้ความสะดวกเมื่อคุณหาโฟลเดอร์เก็บไฟล์ไม่เจอหรือไฟล์อยู่ในที่ๆ ซับซ้อนเกินไป

ดาวน์โหลด

9. Slim PDF

Slim PDF สมกับชื่อเพราะมีไฟล์ติดตั้งที่เล็กมากๆ ขนาดไม่เกิน 2 Mb ใช้งานสะดวก รวดเร็ว ความสามารถเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับ Free PDF Reader รองรับการใช้งานบน Windows 10

ดาวน์โหลด

10. MuPDF

MuPDF โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ 2010 โดยปัจจุบันยังคงเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้ตายหายจาก ยังคงพัฒนาให้ใหม่ทันสมัยอยู่จนถึงตอนนี้ 2019 โปรแกรมเป็นรุ่น Portable ตอนโหลดจะเป็น zip เมื่อได้มาแล้วแตกไฟล์คลิกใช้งานได้เลย ไฟล์มีขนาดปานกลาง ไม่เกิน 100 Mb คุณสมบัติใช้งานมีไม่มากไปกว่าการเปิดดูในรุ่นฟรี

ดาวน์โหลด

สรุป

โดยรวมแล้วผมมองว่าโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF ฟรีๆ อย่างเดียวในปัจจุบันไม่ค่อยจะมีบทบาทหรือมีความจำเป็นต่อผู้ใช้สักเท่าไหร่ เหตุผลนั้นเพราะว่า Brower ต่างก็สามารถรองรับการเปิดดูได้แล้ว แต่หากต้องการมากกว่าการเปิดดู เช่น แก้ไข ตัด รวม หรือ แปลงรูปแบบไฟล์อื่น ๆ คงต้องพึ่งโปรแกรมในเวอร์ชั่นเชิงพาณิชย์